สาเหตุการกลับดาวของหนูแกสบี้ หนูตะเภา ที่มาเป็นอันดับต้น ๆ คงหนีไม่พ้นปัญหาปอดอักเสบ วันนี้บทความที่คุณหมอฝากมาให้เป็นความรู้เพื่อให้มิ๊ ๆ ทุกบ้านนั้นได้สังเกตและพาน้อง ๆ ไปพบคุณหมอได้อย่างทันท่วงที นั่นก็คือ “การสำรวจโรคปอดในหนูแกสบี้ ตะเภา” นั่นเอง

หนูแกสบี้ หนูตะเภามีแนวโน้มที่จะเจ็บป่วยทางเดินหายใจได้หลากหลาย รวมถึงโรคปอด โรคปอดในหนูแกสบี้ ตะเภาอาจเกิดจากหลายปัจจัย เช่น การติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียบางชนิด ภาวะทางพันธุกรรม  รวมถึงการสัมผัสกับหรือสารระคายเคืองอื่น มิ๊ ๆ จะสังเกตได้อย่างไรว่าเด็ก ๆ ที่บ้านมีปัญหาโรคปอดอยู่หรือไม่ มาอ่านบทความไปพร้อม ๆ กัน โดยเริ่มจากการรู้จักสาเหตุ ลักษณะอาการ อาหารและสิ่งแวดล้อมที่ควรระวัง รวมไปถึงการป้องกัน และตบท้ายด้วยยาสามัญประจำบ้านที่ต้องมี

สาเหตุของปัญหาระบบทางเดินหายใจในหนูแกสบี้

ปัญหาระบบทางเดินหายใจเป็นปัญหาหลักสำหรับหนูแกสบี้ หนูตะเภา เนื่องจากอาจทำให้เกิดภาวะที่รุนแรงและอาจถึงแก่ชีวิตได้ โรคปอดบวมของหนูแกสบี้ หนูตะเภาและโรคปอดอื่นๆ อาจเกิดจากหลายปัจจัย เช่น

  • การติดเชื้อ สารพิษจากสิ่งแวดล้อม
  • การติดเชื้อจากสภาพการเลี้ยงที่ไม่สะอาด
  • การติดเชื้อจากการมีของเสียที่ไม่ได้กำจัดทิ้งที่เป็นแหล่งหมักหมมเชื้อโรคหรือแหล่งก่อแอมโมเนีย
  • การได้รับโภชนาการที่ไม่ดี ซึ่งเชื้อโรคสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดคือการติดเชื้อนิวโมคอคคัส ซึ่งอาจทำให้เกิดโรคปอดบวมและโรคปอดอื่นๆ ตามมาอีกมากมาย โดยมีสาเหตุโน้มนำให้ติดได้มากขึ้นจากสภาพแวดล้อมและโภชนาการที่มีปัญหา
แกสบี้ขนร่วง
guinea-pig-carrot

อาการของโรคทางเดินหายใจในหนูแกสบี้

หนูแกสบี้ หนูตะเภามีความไวต่อโรคทางเดินหายใจหลายชนิด รวมถึงโรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน โรคปอดบวม และโรคทางเดินหายใจทั่วไปอื่นๆ โรคเหล่านี้อาจทำให้เกิดอาการร้ายแรงในหนูตะเภา เช่น ไอ จาม มีไข้ หายใจลำบาก หายใจมีเสียงหวีด และน้ำหนักลด  สิ่งสำคัญ คือ เจ้าของหนูตะเภาต้องรับรู้สัญญาณและสังเกตของอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อให้สามารถรีบทำการดูแลและหากอาการรุนแรงจะได้นำไปพบสัตวแพทย์ได้อย่างทันท่วงที

อาหารและสิ่งแวดล้อมที่มีส่วนทำให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจอย่างไร

โรคทางเดินหายใจอาจเกิดจากหลายปัจจัย รวมทั้งอาหารและสิ่งแวดล้อม การให้อาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพหรือการได้รับสารพิษจากสิ่งแวดล้อมสามารถทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจได้หลายอย่าง ตั้งแต่โรคหอบหืดไปจนถึงโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) สิ่งสำคัญ คือ เจ้าของต้องตระหนักและเข้าใจว่าอาหารที่ดีและสิ่งแวดล้อมที่สะอาดปราศจากการหมักหมมของสิ่งสกปรกส่งผลต่อสุขภาพระบบทางเดินหายใจ เพื่อให้เราดำเนินการป้องกันสิ่งโน้มนำที่จะทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจได้ง่ายขึ้น

รายการอาหารเม็ดที่มีคุณค่าทางโภชนาการที่เหมาะสม

รับชมคลิปคุณหมอแนะนำอาหารของน้องหนูแกสบี้

รายการอาหารเสริมที่มีประโยชน์

ยาสามัญประจำบ้านของคนเลี้ยงหนูแกสบี้

สิ่งที่เป็นเสมือนยาสามัญประจำบ้านของคนเลี้ยงหนูแกสบี้ หนูตะเภา หนูขวัญ โดยเฉพาะตอนที่น้องมีปัญหาโรคปอด กินอาหารได้น้อย ควรป้อนอาหารเหลวให้กับน้องวันละ 4 ครั้ง ทุก ๆ 6 ชั่วโมง ตลอดทั้งวัน วิธีการใช้คือเทผงอาหารผสมน้ำและป้อนน้องที่ป่วยหรือกำลังฟื้นตัวให้มีผ่านไซริง เพื่อให้มีสุขภาพที่ดีขึ้นและแข็งแรงโดยเร็ว ในกรณีที่น้องป่วยและไม่ยอมกินอาหารเลยอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ อาหารยาบำรุงร่างกายที่เป็นที่นิยมมีสองแบบที่จะแนะนำ

การป้องกันปัญหาระบบทางเดินหายใจและดูแลสุขภาพชีวิตสัตว์เลี้ยงของคุณ

ปัญหาระบบทางเดินหายใจในสัตว์เลี้ยงนั้นค่อนข้างน่ากังวลและสามารถลดคุณภาพชีวิตได้อย่างมาก แม้ว่าจะไม่มีวิธีเฉพาะที่เหมาะกับการป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจในสัตว์เลี้ยง แต่ก็มีบางขั้นตอนที่เจ้าของทำได้เพื่อช่วยให้สุขภาพสัตว์เลี้ยงดีและป้องกันปัญหาอื่นๆ

ตัวอย่างเช่น หากคุณเลี้ยงหนูแกสบี้ ตะเภา เจ้าของต้องตระหนักถึงสัญญาณและอาการของโรคปอดตั้งแต่เนิ่นๆ นอกจากนี้ เจ้าของควรนำหนูแกสบี้ไปรับการตรวจสุขภาพประจำปีกับสัตวแพทย์ เพื่อหากมีปัญหาจะได้ทำการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ ด้วยแผนการรักษาและมาตรการป้องกันที่ถูกต้อง ซึ่งการดูแลอาหารและสิ่งแวดล้อมที่ดีและตรวจสุขภาพประจำสามารถช่วยให้สัตว์เลี้ยงแข็งแรงและมีอายุยืนยาว

โดยสรุป

โรคปอดในหนูแกสบี้ หรือโรคในระบบทางเดินหายใจต่าง ๆ นั้น เป็นสิ่งที่อันตรายและน่ากังวล หากดูแลหนูแกสบี้ด้วยการทำความสะอาดกรงบ่อย ๆ เลี่ยงการให้น้องสัมผัสฝุ่นและแอมโมเนีย ให้น้องอยู่ในอากาศที่ถ่ายเท ควบคุมอุณหภูมิได้ ให้อาหารที่มีประโยชน์ครบถ้วนตามโภชนาการ พาน้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพทุก 6 เดือน – 1 ปี จะช่วยให้มิ๊ ๆ วางแผนดูแลน้องได้อย่างทันท่วงที การดูแลที่ดีคือการป้องกันซึ่งจะดีกว่าการแก้ไขเสมอ และอย่าลืมสัญญาณอันตรายได้แก่ ไอ จาม หายใจมีเสียงหวีด ควรสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดและรีบพาพบแพทย์  อย่ารอให้น้องกินได้น้อยจนน้ำหนักลดเพราะจะยิ่งมีความเสี่ยงที่สูงขึ้นที่จะรักษาน้องไว้ไม่ได้

สำหรับมือใหม่แนะนำให้ศึกษาการเลี้ยงหนูแกสบี้ควบคู่กับการรู้จักโรคภัยของน้องไว้ด้วย ควรเลี้ยงน้องด้วยคุณภาพชีวิตที่ดี เพื่อให้ทั้งมิ๊ ๆ และน้อง ๆ อยู่ด้วยกันได้นานที่สุด